วิธีที่บ้านที่สร้างด้วยมือช่วยเจ้าของที่พักดีเด่น 2 คนที่ใกล้เกษียณอายุ

ตั้งแต่อิฐก้อนแรกจนถึงผู้เข้าพักคนแรก คู่รักคู่หนึ่งได้แชร์เรื่องราวการให้เช่าที่พักของพวกเขา
โดย Airbnb วันที่ 17 ม.ค. 2019
อ่าน 1 นาที
อัพเดทเมื่อ 7 ม.ค. 2022

สำหรับแมรี่และบัสเตอร์ เรย์โนลด์ ผู้เป็นเจ้าของที่พักดีเด่น การบริการและการสร้างบ้านเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมานานกว่า 40 ปี “นี่คือวิถีชีวิต” บัสเตอร์กล่าว เขาและภรรยาชื่อแมรี่ลงมือสร้างที่พักด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี 1980 แล้วให้ผู้เข้าพักมาเช่าที่พัก “จากการที่มีคนใหม่ๆ เข้ามา คุณก็จะได้มองที่พักอีกครั้งในมุมมองใหม่ เราภูมิใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ” ที่พักเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีห้องพักแขก 3 ห้อง และคอทเทจรับแขก 2 หลัง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์นกดั้งเดิม โดยใช้เวลานั่งรถเมล์ 30 นาทีจากโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ และแล้วทั้งคู่ก็ทำสำเร็จ “เมื่อคืนนี้เอง!” แมรี่หัวเราะ “ฉันเพิ่งปูกระเบื้องห้องน้ำใหม่เสร็จ”

แมรี่และบัสเตอร์สละเวลาจากการปูกระเบื้องมาเล่าเรื่องราวการให้เช่าที่พักว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร งานนี้ช่วยค่าใช้จ่ายหลังเกษียณให้ทั้งคู่ได้อย่างไร และทำไมในไนจีเรียที่ห่างออกไปกว่า 3,000 ไมล์ ถึงมีบ้านที่ดูเหมือนกันราวกับถอดด้าม

การลงมือสร้างบ้านเองดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ คุณทั้งคู่เคยทำงานก่อสร้างมาก่อนไหม?
แมรี่: “จริงๆ แล้ว ไม่เคยเลย บัสเตอร์เป็นนักถ่ายภาพยนตร์ปลดเกษียณ ส่วนฉันเองทำงานด้านการศึกษามาโดยตลอด เจ้าของบ้านคนหนึ่งที่เราเคยอยู่ด้วยสร้างบ้านคอทเทจขาย แต่สร้างได้แย่มากจนเราคิดว่า หากเขาทำได้ เราน่าจะทำได้ดีกว่า บัสเตอร์จึงเข้าคอร์สการก่ออิฐ ส่วนฉันก็ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเดินท่อประปา”

ฝึกสร้างบ้านแบบนี้นะหรือ?
บัสเตอร์: (หัวเราะ) “ตอนนั้นเราไม่มีเงินจะซื้อบ้าน มันเป็นหนทางเดียวที่เราจะมีบ้านบนผืนดินที่เราต้องการ เราจึงลงทุนด้วยเงินก้อนแรก 3,000 แรนด์ (218 ดอลลาร์สหรัฐ) และทุกอย่างก็เริ่มตั้งแต่นั้นมา เราอุทิศเวลาทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกนาทีที่มี ทุกเศษสตางค์ที่เก็บออมไปกับบ้านหลังนี้”

แมรี่: “บัสเตอร์ดูแลเรื่องโครงสร้าง ส่วนฉันตกแต่งภายใน คานทำจากต้นหมากฝรั่งท้องถิ่น และไม้อื่นๆ อีกมากมายที่นำมาจากเหมืองร้างคราวน์ไมน์ ซึ่งเป็น 1 ในเหมืองทองคำแห่งแรกในโจฮันเนสเบิร์ก สิ่งที่เราจ้างทำก็มีแค่ไฟฟ้าและหลังคามุงจาก เพราะต้องใช้ฝีมือเฉพาะทางมาก หลังคามุงจากเป็นงานฝีมือดั้งเดิม เราจึงจ้างผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นมามุงหลังคาด้วยหญ้าที่เหล่าแม่ศรีเรือนตัดไว้ให้ เหมือนกับงานของไมเคิลแองเจโลที่โบสถ์ซิสทีน ซึ่งใช้เวลาขึ้นลงบันไดเกือบทั้งชีวิต ราวกับใช้ชีวิตอยู่ในงานศิลปะ”

การพูดคุยเกี่ยวกับที่พักนับเป็นวิธีที่ดีในการสานสัมพันธ์กับผู้เข้าพักใช่ไหม?
บัสเตอร์: “ใช่เลย จริงแท้แน่นอน บ้านหลังนี้เป็นแบบเปิดโล่ง ซึ่งในปี 1980 ยังไม่มีแผนผังด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เราก็มีจนได้! ผู้เข้าพักเดินเข้ามาทางประตูครัว ก็จะพบกับ[ที่พักและ]อาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟ: แยมโฮมเมด ผักดอง และชัทนีย์ รวมถึงกราโนล่าและมัฟฟินทำเอง มีขนมปัง กาแฟให้เลือกหลากหลาย และชารูอิบอสที่มาจากแอฟริกาใต้ เราคุยกันที่โต๊ะอาหารเช้าเป็นชั่วโมงเลย”

แมรี่: “ครั้งหนึ่ง เราเคยต้อนรับชาวไนจีเรียที่คาดหวังบริการระดับโรงแรม 5 ดาว สีหน้าพวกเขาดูผิดหวังตอนเดินเข้ามาในที่พัก แต่ไม่นานก็ดูจะปรับตัวได้ ตอนเช็คเอาท์ มีคนหนึ่งมาขอแปลนบ้านเพราะอยากสร้างบ้านเหมือนของเรา ตอนนี้ก็อาจจะมีบ้านสักหลักในไนจีเรียที่เหมือนบ้านเราก็ได้นะ”

ดูเหมือนเป็นคำชมที่ดูดีนะ! คุณเริ่มให้เช่าที่พักอย่างไร?
แมรี่: “ผ่านเอเอฟเอส—อเมริกันฟิลด์เซอร์วิส ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนนานาชาติ ในปี 1984 เราไปทริปท่องอเมริกาที่น่าทึ่ง ระหว่างขากลับ เอเอฟเอสกำลังมองหาครอบครัวเจ้าของที่พัก ตั้งแต่นั้นมา เราก็ให้นักเรียน 7 คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเข้าพักในแต่ละปี การให้เช่าที่พักจึงกลายเป็นวิถีชีวิตของเรา นอกจากนี้ เรายังเพิ่มคอทเทจอีก 2 หลัง โดยให้พ่อแม่อยู่หลังเดิม ส่วนอีกหลังเอาไว้ให้เช่า ในปี 2017 เคธี่ ลูกสาวของเราสนับสนุนให้เข้าร่วมกับ Airbnb แล้วเราก็เริ่มได้รับจองเกือบทันที”

สิ่งที่คุณชอบมากที่สุดเกี่ยวกับการให้เช่าที่พักคืออะไร?
แมรี่: “ผู้คน เราสนุกกับการได้เจอผู้คนที่นี่ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และได้รู้เหตุผลที่ผู้คนมาแอฟริกาใต้ เราได้ต้อนรับชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกากลุ่มหนึ่งจากชิคาโก ซึ่งอยากมาสัมผัสรากเหง้าของตัวเอง เราแนะนำสถานที่ที่คิดว่าพวกเขาน่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบแอฟริกันแท้ๆ ซึ่งปรากฏว่าทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและผูกพันกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมของตน”

บัสเตอร์: “นอกจากนี้ ยังมีชายชาวอาร์เจนตินาคนหนึ่ง ซึ่งชื่นชอบระบบปุ๋ยหมักของเรามากจนเอากลับไปทำเป็นธุรกิจเลย เรื่องราวพวกนั้นช่วยให้เราก้าวต่อไป”

แมรี่: “เมื่อรวมกับที่บัสเตอร์ต้องเกษียณก่อนกำหนด ในขณะที่ฉันทำงานควบคู่กันไป รายได้เสริมนี้จึงสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก ซึ่งช่วยให้เราอยู่ในบ้านของเราต่อไปได้ เรายังจ้างคนดูแลที่พัก 2 คนและคนสวน 1 คน หากเราไม่มีรายได้จาก Airbnb พวกเขาก็พลอยตกงานไปด้วย เราไม่ได้ตั้งใจให้เช่าที่พัก เพื่อหวังกำไรหรือทำเอารวย ไม่เลย เราแค่อยากรักษาบ้านของเราไว้ รวมถึงมีเงินจ้างเนลลี่ เอลิซาเบธ และมิเชคต่อไป”

มีคำแนะนำสำหรับเจ้าของที่พักไหม?
แมรี่: “คุณต้องสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่คุ้มค่าเลย น่าสนุกจริงๆ นะ เมื่อไรที่ผู้คนชื่นชมในสิ่งที่คุณทำ รู้ได้เลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว”

ข้อมูลในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่เผยแพร่

Airbnb
17 ม.ค. 2019
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม?

ดูหัวข้ออื่นๆ